พลอยเนื้ออ่อน เครื่องประดับที่มาพร้อมความสวยงามและความโดดเด่น

พลอยเนื้ออ่อน คืออะไร?

“พลอยแท้ที่นิยมเอามาทำเครื่องประดับ ”

ถ้าไม่ได้อยู่ในวงการจิวเวลรี่แบบจริงจัง คนทั่วไปก็อาจจะยังไม่รู้ว่า พลอยนั้นสามารถแบ่งออกเป็น 2 แบบใหญ่ คือ พลอยเนื้อแข็ง และ พลอยเนื้ออ่อน โดยในปัจจุบันแบรนด์ต่าง ๆ ก็มักจะหยิบเอาพลอยเนื้ออ่อนมาใช้ทำเครื่องประดับซะเป็นส่วนมาก เนื่องจากเป็นพลอยที่หาได้ง่ายกว่า แถมยังราคาไม่สูงจนเกินไป ซึ่งช่วยให้ใครหลาย ๆ คนสามารถเข้าถึงและจับจองเป็นเจ้าของได้ง่าย

โดยพลอยเนื้ออ่อน หรือ Semi-Precious Gemstones นั้นเป็นพลอยที่มีค่าความแข็งต่ำกว่า 9 และโดยส่วนมากจะมีค่าความแข็งประมาณ 7-7.5 ซึ่งอัญมณีที่เป็นพลอยเนื้ออ่อนและหลาย ๆ คนรู้จักกันดีก็คือ พลอยที่อยู่ในกลุ่มแร่ควอตซ์ (Quartz) ที่มีความวาวคล้ายแก้วและมีผลึกภายในแบบโปร่งใส ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในแร่ที่พบได้บ่อย เช่น อเมทิสต์ (Amethyst) หรือ ซิทริน (Citrine) เป็นต้น

ค่าความแข็งของพลอย

หลายคนอาจจะเคยเห็นการแบ่งแยกประเภทพลอยตามแหล่งที่มาหรือตามแร่ธาตุที่เป็นส่วนประกอบ แต่โดยพื้นฐานแล้วพลอยส่วนใหญ่จะถูกจำแนกประเภทตาม ค่าความแข็ง หรือ Hardness ของตัวมันเอง โดย ค่าความแข็ง จะหมายถึง ความทนทานต่อการขีดข่วนให้เป็นรอย โดยจะใช้มาตรฐานของ โมห์ส หรือ Mohs ในการวัด หรือที่เรียกกันว่า โมห์สเกล นั่นเอง และหากเราจำแนกพลอยตาม โมห์สเกล ที่ว่าจะสามารถแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มใหญ่ ๆ ดังนี้

• เพชร หรือ Diamond ถือว่าเป็นอัญมณีมีความแข็งมากที่สุด โดยมีค่าความแข็งอยู่ที่ 10 โมห์สเกล
• พลอยเนื้อแข็ง หรือ Precious Gemstone ถือว่าเป็นอัญมณีมีความแข็งรองลงมา โดยมีค่าความแข็งอยู่ที่ 9 โมห์สเกล ไม่ว่าจะเป็น ทับทิม, บุษราคัม และ ไพลิน เป็นต้น
• พลอยเนื้ออ่อน หรือ Semi-Precious Gemstone เป็นอัญมณีมีความแข็งรองลงมาอีกขั้น โดยมีค่าความแข็งต่ำกว่า 9 โมห์สเกล ไม่ว่าจะเป็น อเมทิสต์, โกเมน และ มรกต เป็นต้น

การเจียระไน พลอยเนื้ออ่อน

พอพูดถึงพลอยเนื้ออ่อน หลายคนอาจนึกว่าจะต้องมีกระบวนการเจียระไนที่ไม่เหมือนกับพลอยเนื้อแข็ง แต่จริง ๆ แล้วหากใครที่ต้องการเจียระไนพลอยเนื้ออ่อนก็สามารถใช้กระบวนการเดียวกันกับพลอยเนื้อแข็งได้เลย เพียงแค่สลับขั้นตอนก่อนหลังเท่านั้น โดยพลอยเนื้ออ่อนจะต้องเริ่มเจียระไนบริเวณหน้าพลอยก่อนที่จะย้ายไปเจียระไนด้านล่างต่อนั่นเอง ซึ่งความสวยงามของพลอยแต่ละเม็ด นอกจากจะขึ้นอยู่กับก้อนพลอยดิบแล้ว ยังขึ้นอยู่กับความสามารถของช่างเจียระไนที่จะต้องมีความชำนาญและรู้ว่าจะต้องขึ้นรูปพลอยเม็ดนั้นยังไง ถึงจะสามารถดึงเอาเอกลักษณ์ของพลอยนั้น ๆ ออกมาให้ชัดเจนที่สุด โดยจะต้องพิจารณาจาก ค่าความแข็ง ความโปร่งแสง รอยแตกร้าว และตำหนิ เป็นต้น

ความเชื่อผิด ๆ เกี่ยวกับพลอยเนื้ออ่อน

คนทั่วไปที่ได้ยินคำว่าพลอยเนื้ออ่อน ก็อาจจะนึกว่าเป็นพลอยที่ไม่มีคุณภาพ เปราะบางหรือแตกง่าย ทำให้หลาย ๆ คนมองข้ามเครื่องประดับที่ทำมาจากพลอยเนื้ออ่อน แต่จริง ๆ แล้วค่าความแข็งที่เอามาเป็นมาตรวัดพลอยเหล่านี้นั้นบ่งบอกถึง ค่าความแข็งที่ทนทานต่อการขีดข่วนระหว่างพลอยด้วยกันเอง เท่านั้น ไม่ได้หมายความว่าพลอยเนื้ออ่อนจะแตกง่ายแต่อย่างใด

แถมบางคนก็อาจจะเข้าใจผิดว่าพลอยเนื้ออ่อนเป็นพลอยปลอมบ้างหรือพลอยที่ยังไม่ถึงเวลาขุดบ้าง แต่จริง ๆ แล้วพลอยเนื้ออ่อนคือพลอยแท้ที่สามารถขุดเจอได้ตามธรรมชาติแบบเดียวกันกับพลอยเนื้อแข็ง เพียงแค่แตกต่างกันที่ค่าความแข็ง หรือ Hardness เท่านั้นเอง

ขั้นตอนการดูแลรักษาเครื่องประดับพลอยเนื้ออ่อน

• ทำความสะอาดเครื่องประดับหลังการใช้งานทุกครั้ง โดยให้ใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นผสมสบู่เหลวอ่อน ๆ ค่อย ๆ เช็ดทำความสะอาดเครื่องประดับอย่างเบามือ แล้วจึงนำไปเก็บในกล่องที่มีการบุผ้าด้านใน เพื่อป้องกันการกระทบกระเทือน
• จัดเก็บเครื่องประดับแยกออกจากกัน เพราะหากเก็บเอาไว้ในกล่องเดียวกัน หรือปะปนกันไปมา จะทำให้เครื่องประดับที่ทำจากพลอยเนื้ออ่อนเกิดรอยขีดข่วนได้นั่นเอง
• หลีกเลี่ยงการฉีดน้ำหอมตอนที่สวมใส่เครื่องประดับอยู่ เพราะน้ำหอมสามารถทำให้เกิดมลทินและทำให้เนื้อพลอยดูหมองลงได้ แนะนำให้ฉีดน้ำหอมให้เรียบร้อยแล้วจึงค่อยใส่เครื่องประดับ จะช่วยได้มาก
• ตอนที่ใช้งานหรือสวมใส่อยู่นั้น ต้องพยายามอย่าให้เครื่องประดับพลอยเนื้ออ่อนไปถูกความร้อนสูง ๆ หรืออยู่กลางแดดจัด ๆ เป็นเวลานาน เพราะอาจจะทำให้พลอยเปลี่ยนสีได้
• ไม่ควรใส่เครื่องประดับพลอยเนื้ออ่อนลงว่ายน้ำ ไม่ว่าจะน้ำสระทั่วไปหรือน้ำทะเลก็ตาม เพราะจะทำให้พลอยเกิดมลทินได้เช่นกัน

หลังจากที่ได้รู้เรื่องราวและความหมายที่แท้จริงของพลอยเนื้ออ่อนกันไปแล้ว หลายคนก็น่าจะเริ่มสนใจและอยากเป็นเจ้าของเครื่องประดับที่ทำจากพลอยเนื้ออ่อนกันบ้างแล้ว วันนี้ NGG Jewellery เลยจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับคอลเลกชันสุดพิเศษอย่าง De Paris จากการคอลแลปส์กันระหว่าง Gemalyn และ Elle ที่จัดเต็มทั้งความสวยงามและความโดดเด่นที่รังสรรค์จากเฉดสีของ Sunrise และ Sunset

Gemalyn X Elle คอลเลกชัน De Paris ความงดงามจากกรุงปารีส

1. De Paris Sunrise แสงสว่างในยามเช้า

ผสมผสานเรื่องราวอันโดดเด่นของกรุงปารีสได้อย่างลงตัว จากแสงสว่างของท้องฟ้าในยามเช้าที่รับกับสถาปัตยกรรมอันเป็นเอกลักษณ์ของปารีส จึงกลายมาเป็นคอลเลกชัน De Paris Sunrise ซึ่งประกอบไปด้วย Bangle, Ring และ Earring ที่เต็มไปด้วยความล้ำค่าที่ดูทันสมัย

2. De Paris Sunset ผืนฟ้าในยามเย็น

“ความโรแมนติกที่น่าค้นหา”

ความลงตัวของสีสันที่ได้แรงบันดาลในมาจากท้องฟ้ายามเย็นในกรุงปารีส ที่เต็มไปด้วยความโรแมนติกและความน่าค้นหา จึงกลายมาเป็นคอลเลกชัน De Paris Sunset ซึ่งประกอบไปด้วย Necklace, Bracelet, Bangle, Ring และ Earring ที่โดดเด่นในเรื่องสีสันซึ่งเข้ากับเมืองแฟชั่นได้เป็นอย่างดี