จัดงานแต่งต้องเตรียมอะไรบ้าง? เพื่อให้ทุกอย่างออกมาดูดีที่สุด

เป็นสิ่งที่มองข้ามไม่ได้เลยเพราะถือเป็นความเชื่อของคนไทยที่มีมาช้านาน ที่มักจะให้ความสำคัญกับฤกษ์มาก ๆ ไม่ว่าจะฤกษ์ขึ้นบ้านใหม่ ฤกษ์ออกรถใหม่ รวมถึงฤกษ์แต่งงานก็เหมือนกัน โดยจะต้องเลือกวันที่เหมาะกับการจัดงานแต่งและจะต้องสมพงษ์กับทั้งเจ้าบ่าวและเจ้าสาว แต่ที่สำคัญต้องพยายามเลี่ยงหน้าฝนหรือหน้าร้อน โดยเฉพาะงานที่ต้องจัดนอกสถานที่ และควรรีบหาวันตั้งแต่เนิ่น ๆ เพราะฤกษ์แต่งงานมักจะชนกัน ทำให้หาสถานที่จัดงานค่อนข้างยาก

2. กำหนดงบประมาณทั้งหมด

ทุกอย่างในงานแต่งล้วนใช้เงินทั้งนั้น ทำให้การกำหนดงบประมาณทั้งหมดในการจัดงานแต่ง กลายมาเป็นเรื่องสำคัญอันดับต้น ๆ ซึ่งช่วยให้คู่บ่าวสาวเห็นภาพรวมของงานว่าต้องใช้เงินทั้งหมดเท่าไร อะไรตรงไหนที่สามารถลดหรือจำกัดได้บ้าง เพื่อให้ทุกอย่างอยู่ในงบประมาณที่มี จะได้ไม่ต้องเดือดร้อนไปหยิบยืมจากคุณพ่อคุณแม่หรือคนอื่น ๆ หลังจบงานจะได้ไม่ต้องมานั่งเคลียร์ภาระตรงนี้ด้วย

3. วางแผนดีเทลเกี่ยวกับงาน

3.1. หาสถานที่จัดงาน

ส่วนมากจะขึ้นอยู่กับธีมงานและความต้องการของบ่าวสาวว่าอยากให้ออกมาเป็นฟิลลิ่งประมาณไหน ซึ่งก็มีให้เลือกหลากหลายแบบทั้ง โรงแรม, Wedding Venue, ริมทะเล, สวน หรือบ้านของบ่าวสาวเอง ก็เป็นที่นิยมเหมือนกัน เพราะไม่ต้องเสียค่าเช่าสถานที่ แต่อีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่ต้องดู คือ เรื่องการเดินทาง เพื่อให้แขกทุกคนที่เราเชิญไปสามารถเดินทางมางานได้อย่างสะดวก

3.2. เลือกรูปแบบอาหาร

จริง ๆ แล้วรูปแบบของอาหารตามงานเลี้ยงนั้นมีให้เลือกหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น บุฟเฟ่ต์ ค็อกเทล หรือโต๊ะจีน ซึ่งเป็นรูปแบบอาหารยอดฮิตในงานแต่ง เพราะง่ายและสามารถคุมงบประมาณได้ดีกว่า แต่ก็ขึ้นอยู่กับสถานที่ที่ใช้จัดงานแต่ง จำนวนแขกที่เชิญมา และความสะดวกในการทาน เพื่อให้แขกทุกคนได้รับอาหารอย่างทั่วถึงนั่นเอง

3.3. เลือกการ์ดและของชำร่วย

อีกหนึ่งสิ่งที่ขาดไม่ได้คือการ์ดแต่งงานและของชำร่วย โดยการ์ดแต่งงานสามารถเลือกได้ตามความชอบของบ่าวสาว แต่ต้องดูงบประมาณด้วยเพราะยิ่งดีเทลเยอะก็จะยิ่งแพง และต้องไม่ลืมใช้สีการ์ดให้เข้ากับธีมงานแต่งด้วย ส่วนของชำร่วยนอกจากจะต้องเป็นสิ่งที่สื่อความหมายดีแล้ว ยังต้องคำนึงถึงแขกว่าสามารถเอาไปใช้ต่อได้จริง ๆ เพื่อให้แขกรู้สึกประทับใจกับของชำร่วยที่ได้รับ

3.4. กำหนดรูปแบบพิธีการ

เมืองไทยเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยวัฒนธรรมและศาสนาที่หลากหลาย ทำให้งานแต่งในไทยมีรูปแบบพิธีการที่หลากหลายเช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็น พิธีรดน้ำสังข์แบบไทย พิธีเข้าโบสถ์แบบคริสต์ หรือพิธียกน้ำชาแบบจีน ซึ่งสามารถเลือกได้ตามพื้นเพของบ่าวสาว โดยดูว่ามีเชื้อสายของประเทศอื่นไหมหรือนับถือศาสนาอะไร เพื่อให้ได้พิธีที่เข้ากับครอบครัวและตัวบ่าวสาวเอง

3.5. กำหนดธีมงานแต่ง

เมื่อพูดถึงงานแต่งหลายคนมักจะนึกถึงเรื่องธีมมาเป็นอันดับแรก โดยเฉพาะแขกที่ต้องหาชุดให้เข้ากับธีมงานนั้น ๆ ไม่ว่าจะ ธีมเอิร์ธโทน ธีมสีชมพู หรือธีมสีฟ้า เป็นต้น ซึ่งจริง ๆ แล้วนอกจากธีมจะเป็นตัวช่วยกำหนดชุดของแขกที่มางานแล้ว ยังช่วยให้ภาพรวมงานแต่งดูลงตัวและเข้ากันมากขึ้น ไม่ว่าจะถ่ายรูปเก็บภาพบรรยากาศจากมุมไหน ก็ออกมาสวยสมบูรณ์แบบอย่างแน่นอน

3.6. เตรียมรายชื่อแขก

การลิสต์รายชื่อแขกเป็นขั้นตอนที่เหมือนจะง่ายแต่จริง ๆ ต้องคิดเยอะอยู่เหมือนกัน โดยเฉพาะคู่บ่าวสาวที่ตัดสินใจจัดสเกลงานเล็ก ๆ ที่ต้องจำกัดจำนวนคนก็จะลำบากใจมาก ๆ เพราะคนนั้นก็เพื่อนคนนี้ก็เพื่อน แถมยังต้องแชร์จำนวนแขกกับคู่ตัวเองอีก จึงเป็นขั้นตอนที่บ่าวสาวส่วนใหญ่มักจะนั่งลิสต์รายชื่อด้วยตัวเอง เพื่อไม่ให้เกิดปัญหารายชื่อแขกตกหล่น

4. วางแผนดีเทลเกี่ยวกับบ่าวสาว

4.1. จองคิวช่างหน้าช่างผมและช่างภาพ

นอกจากภาพรวมของงานจะสำคัญแล้ว หน้าผมเจ้าบ่าวเจ้าสาวเองก็ต้องดูดีเหมือนกัน โดยเฉพาะฝั่งเจ้าสาวที่ต้องจัดเต็มทั้งหน้าและผม ดังนั้นก่อนตัดสินใจเลือกช่างหน้าช่างผม ควรเช็กรีวิวและผลงานของช่างคนนั้น ๆ เพื่อให้แน่ใจว่าหน้าและผมจะออกมาในแบบที่เราต้องการจริง ๆ รวมถึงช่างภาพเองก็ต้องเช็กผลงานเก่า ๆ ว่าเป็นสไตล์รูปที่เราชอบหรือไม่ และถ้าอยากได้คลิปบรรยากาศงานแต่ง ก็ต้องจ้างช่างวิดีโอเพิ่มเติม หรืออาจจะหาบริษัทที่รับงานทั้งสองอย่างเลยก็สะดวกดีเหมือนกัน

4.2. เตรียมถ่ายพรีเวดดิ้งและทำพรีเซนเทชัน

ถือเป็นการเรียกน้ำย่อยก่อนถึงงานแต่งจริง เป็นขั้นตอนที่บ่าวสาวหลายคู่มักจะจ้างร้านพรีเวดดิ้ง ด้วยการบริการที่ครบจบในที่เดียว ทั้งบริการแต่งหน้าทำผมเช่าชุด รวมถึงถ่ายพรีเวดดิ้งและทำพรีเซนเทชัน แต่สำหรับบ่าวสาวคู่ไหนที่ไม่ได้ซีเรียสมากหรืออยากได้ฟิลลิ่งภาพที่เป็นกันเอง ก็มักจะเลือกถ่ายพรีเวดดิ้งง่าย ๆ และทำพรีเซนเทชันด้วยตัวเอง ซึ่งช่วยประหยัดงบไปได้เยอะเลยทีเดียว

4.3. เลือกชุดเจ้าบ่าวเจ้าสาว

ข้อนี้ส่วนมากจะขึ้นอยู่กับงบประมาณที่บ่าวสาวมี หากคู่ไหนมีงบเยอะและต้องการความพิเศษก็สามารถเลือกตัดชุดใหม่กับร้านในดวงใจได้เลย แต่หากใครอยากประหยัดงบก็เลือกเช่าชุดแทนได้เช่นกัน ซึ่งเป็นทางเลือกยอดฮิตแถมตอนนี้แต่ละร้านก็มีแบบให้เลือกเยอะมาก ๆ ตั้งแต่ชุดไทยไปจนถึงชุดเจ้าสาวสากล ที่มีให้เลือกทั้งสไตล์เจ้าหญิงไปจนถึงสไตล์เรียบหรู ส่วนชุดเจ้าบ่าวก็มีให้เลือกหลายแบบเช่นกัน

4.4. เตรียมแหวนแต่งงาน

หนึ่งสิ่งในงานแต่งที่ต้องใส่ใจมากที่สุดคงหนีไม่พ้น แหวนแต่งงาน ที่ต้องอยู่ติดกับตัวบ่าวสาวไปอีกนาน ซึ่งอันดับแรกบ่าวสาวจะต้องตั้งงบประมาณที่สามารถเอามาลงกับแหวนไว้ก่อนเลย เพื่อไม่ให้บานปลาย จากนั้นค่อยเลือกดีไซน์และสไตล์ที่ชอบ และจะต้องเลือกซื้อแหวนแต่งงานที่มีคุณภาพจากร้านที่เชื่อถือได้เท่านั้น

แหวนแต่งงานหลากสไตล์ จาก NGG Jewellery

สำหรับเจ้าบ่าวเจ้าสาวคู่ไหนกำลังมองหาแหวนแต่งงานดีไซน์สวยคุณภาพแน่น ด้วยวัสดุระดับพรีเมียมอย่างทองคำแท้ 18K และเพชรเม็ดงามที่มีคุณค่าและคู่ควรกับงานแต่งสุดพิเศษ ให้เราเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยเนรมิตให้วันสำคัญของคุณน่าจดจำตลอดไป

แหวนคู่      แหวนเพชรเม็ดเดี่ยว      แหวนเพชรล้อม

5. หาคนดำเนินงานสำหรับพิธีต่าง ๆ

คนสำคัญที่จะมาทำให้งานแต่งสมบูรณ์แบบมากขึ้นก็คือ พิธีกรหรือแม่งาน ที่จะคอยดำเนินงานในทุก ๆ ขั้นตอนให้เป็นไปอย่างราบรื่นมากที่สุด ดังนั้น จึงควรเลือกพิธีกรที่มีประสบการณ์และเคยผ่านงานพิธีกรมาบ้างแล้ว เนื่องจากขั้นตอนและพิธีการต่าง ๆ ในงานแต่งมีดีเทลและรายละเอียดค่อนข้างเยอะ การเลือกพิธีกรที่มีประสบการณ์จะช่วยให้ทุกอย่างดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น

6. เตรียมของใช้ในพิธีการต่าง ๆ

และก็มาถึงขั้นตอนสุดท้ายก่อนที่จะถึงวันงาน นั่นคือการเตรียมของที่จะใช้ในพิธีการต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นในวันงาน ไม่ว่าจะเป็น พิธีแห่ขันหมาก, พิธีสงฆ์, พิธีสู่ขอ, พิธีหมั้น, พิธีรับไหว้ และพิธีรดน้ำสังข์ เป็นต้น โดยอาจจะต้องช่วยกันเตรียมและเช็กของใช้ต่าง ๆ ซ้ำสัก 2-3 รอบ เพื่อให้มั่นใจว่าของทุกอย่างครบเรียบร้อยแล้ว